คุณ...(ไอ้)...เล็ก
ผู้เข้าชมรวม
142
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
คุณ…(ไอ้)...ต้อม
หลังจากสถานศึกษาที่ผมเรียน ยุบหอพัก ผมกับเพื่อนต้องมาติดต่อหาเช่าบ้าน บริเวณด้านหลังโรงเรียนพรตพิทยพยัต เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร.......บ้านเช่าหลังใหญ่ ของป้าอ้อยหญิงม่าย เศรษฐีนีใหญ่ วัยหกสิบเศษๆ ที่พวกเราเช่ามีสองชั้น จัดว่าเป็นบ้านหลังใหญ่มาก ค่าเช่า ที่ผมไปติดต่อครั้งแรก คือ ห้าร้อยบาทต่อเดือน... วันเปิดเรียนมาถึง ผมเป็นคนแรกที่มาก่อนใครๆ ในกลุ่มเพื่อน ผม ได้ไปขอกุญแจที่ ป้าอ้อย เพื่อมาเปิดบ้าน วันนั้น.. ป้าเป็นคนมาเปิดบ้านให้เอง ทั้งยังแนะนำให้กับผมว่า ประตู หน้าต่าง อยู่ตรงไหน สวิทช์ เปิด-ปิดไฟ อยู่ตรงไหน บ้านที่ผมมาเช่าเป็นสองชั้น ด้านล่างโล่ง มีบันไดเพื่อขึ้นชั้นบน ผม ได้รับความไว้วางใจจากเพื่อนและป้า ให้เป็นคนรวบรวมเงินค่าเช่า เพื่อนำมาส่งให้ป้าภายในทุกๆ ต้นเดือน ไม่เกินวันที่ 5 ป้าอ้อย มีลูกชายสองคน ลูกสาวสองคน ลูกชายคนโตจบปริญญาตรี ทำงานแล้วแต่ลาบวช ลูกชายคนเล็ก คือ พี่อนุรักษ์ มีนิสัยแบบผู้หญิง ต่อมาเป็นกระเทยไปในที่สุด ป้าอ้อยเลยบังคับให้อยู่บ้าน ช่วยดูแลงานภายในบ้าน พี่รักษ์ มักชอบแต่งตัวแบบกุลสตรี ไว้ผมยาวใส่เสื้อลายดอก นุ่งผ้าซิ่น เป็นคนพูดจาน้อย มีเพื่อนๆ และรุ่นน้อง ที่เป็นกระเทย แวะเวียนมาหาบ่อยๆ พี่รักษ์ ถือเป็นกระเทยรุ่นแรกๆ ของกระเทยหัวตะเข้
บ้านที่ผมเช่า ตั้งแต่ช่วงหกโมงเย็นจนทุ่มเศษ จะมีเหล่าบรรดากระเทย เดินผ่านหน้าบ้าน เกือบทุกๆ วัน ด้วยเพราะผม ชอบเล่นกีฬา หากวันไหนไม่ได้อยู่เวรไปตลาดจ่ายตลาดเพื่อซื้อกับข้าว ผมก็จะไปเล่นบาสเกตบอล แบดมินตัน บอลรูหนู กับเพื่อนๆ ภายในสถาบัน จนค่ำ แล้วจึงกลับมากินข้าว ที่บ้าน พวกเราตกลงกันว่า ใครหิวก็กินก่อน แต่ต้องแบ่งกับข้าวไว้เผื่อคนข้างหลังที่ยังไม่ได้กิน ดังนั้น ข้าว และกับข้าว จึงพอเพียง...และ หากไม่พอจริงๆ ก็ไม่ยุ่งยากอะไรเลย เพียง ออกเดินหรือว่ายน้ำ ข้ามคลอง หัวตะเข้ ซึ่ง บริเวณตรงข้ามนั้นจะเป็น ร้านขายอาหารตามสั่งพอดี ระยะความกว้างของคลองหัวตะเข้ประมาณ สักสี่สิบเมตรเท่านั้นเอง บ่อยครั้ง ผม จะลอยคอข้ามไปซื้อลาดหน้า บ้านพี่แฝด ต้องบอกว่า พี่น้องแฝดคู่นี้ เป็นกระเทยทั้งสองคนเลย
พี่แฝดมีน้องสาวหน้าตาสะสวย แต่ใครไปจีบเป็นต้องโดนกีดกัน เสียทุกราย หลายๆ ครั้งพี่แฝด และ พี่รักษ์จะมาคุย มาทำกิจกรรมในกลุ่ม ที่บ้านป้าอ้อย เมื่อผ่านบ้านผม เขาจะตะโกนถามไถ่ ทุกข์สุข ต้องบอกเสียก่อนว่า ตัวผมเอง ไม่ได้เกลียดกระเทย แต่ก็ไม่ถึงกับชื่นชอบอะไร ก็เมื่อจิตใจเขาเป็นอย่างนั้น มันเป็นธรรมชาติของเขา นานาจิตตัง คงไปว่าอะไร เขาไม่ได้
ช่วงทุกๆ เย็น บางวันที่สนามบาสในสถาบัน (เกษตรจ้าคุณ) มีคนมาเล่นกันมาก ผมจึงข้ามมาเล่น บอล ที่ฝั่งโรงเรียนพรตพิทยพยัต ซึ่งอยู่ใกล้บ้านที่ผมเช่า เราแบ่งทีมเล่นบอลรูหนูข้างละหกคน ผมค่อนข้างคุ้นเคยกับน้องๆ และเด็กวัยรุ่นแถวนี้ดี จึงไม่มีปัญหา และหลายครั้งที่เล่น จะมีไอ้ต้อม ตัวเอกของเรื่องเล่น ด้วย ไอ้ต้อมเป็นคนแถวๆ ตลาดหัวตะเข้ ใกล้โรงเรียนมาเลียลัย ต้องบอกว่าไอ้ต้อม เป็นผู้ชายที่หน้าตาดีทะมัดทะแมง เป็นชายอกสามศอก แม้จะไม่ค่อยได้พูดได้คุยกันบ่อยนัก แต่ด้วยท่าทีความเป็นมิตรของเขา ทำให้ผมรู้สีกว่า ชายคนนี้คบเป็นเพื่อนได้ ว่าไปแล้วช่วงแรกๆ ที่ผมได้สัมผัสกับนายต้อม เขาไม่มีทีท่าจะมี พฤติกรรม เบี่ยงเบียนทางเพศเลย เคยเล่นหัว หยอกล้อตามภาษาของผู้ชาย ส่วนใหญ่ที่เราแบ่งทีมแข่งบอลกัน บางทีผมก็อยู่ฝ่ายเดียวกันกับไอ้ต้อม และ บางที ผมก็จะอยู่กันคนละฝ่ายกับเขา สรรพนาม ที่ผมพูดกับเขา มัก ใช้คำว่า ไอ้ ..มึง .. กู หลังเลิกเล่นบอล ก็เดินกอดคอกัน บอกถึงความสนิทสนม ขณะแข่งบอลกันก็ปะทะแข้งกันบ้าง แต่ละครั้ง มันเล่นกันแรง เพื่อเอาชนะกัน เพราะนี่มันคือศักดิ์ศรี ใครเป็นแชมป์นาน มันเก่ง -มันเก๋า มันคุยได้ทั่วตลาดหัวตะเข้ บ่อยครั้ง ไอ้ต้อมปะทะแข้งกับผม แล้วมันต้องไปนั่งคลำหน้าแข้งที่ปูดเขียว ผมก็แวะไปตบหลังขอโทษ เพราะมันอยู่ในเกมไม่ได้มีเจตนาแกล้ง เราก็ให้อภัยกันและกัน เสร็จจากแข่งเดินกอดคอ กินน้ำ แล้วกลับที่พัก.. บ้านใครบ้านมัน
ส่วนใหญ่ที่เราเลิกเล่น คือ ช่วงพระอาทิตย์ตก จนสายตาไม่สามารถจะเห็นลูกบอลได้แล้ว ผมจึงเดินทางกลับ บางวันก็เดินกลับบ้านที่เป็นเส้นทางเดียวกันกับไอ้ต้อม คุยกันไป หยอกล้อกันไป
... ไอ้ต้อมนี่ ใช้ได้เลย เป็นคนมีสัมมาคารวะ ผมคิด
ผมอายุแก่กว่าเขาสักสองปี เขามักจะเรียกผมว่า ..พี่.. ทุกครั้ง จากที่สนิทสนมกันมากขึ้น ท่าทีของไอ้ต้อม ดูมันเปลี่ยนไปในบางครั้ง บางวันที่เล่นบอล เห็นขนตามันงอน ทาคิ้วดำ ที่ปากเหมือนจะทาลิปสติกด้วย ผมยังคงเล่นบอลตามปกติ ไม่มีอะไรน่าเคลือบแคลงสงสัย กลุ่มกระเทย ที่ผ่านหน้าบ้านที่ผมเช่า จากเมื่อก่อน มี 2-3 คน ที่มาหาพี่รักษ์ ในระยะหลังดูเหมือนมันจะมีมากขึ้น ช่วงค่ำๆ หลายคนแต่งตัวด้วยชุดราตรียาว พวกเราที่อยู่ในบ้านเช่า ได้แต่มองพวกเขา แบบฉาบฉวย กระเทยกลุ่มนี้ มักจะเข้า ออกมาหาพี่รักษ์เป็นปกติ อยู่แล้ว ส่วนใหญ่ เขามักจะเป็นฝ่าย ทักทายพวกเราก่อน เราก็ตอบตามมารยาท
“วันนี้ทำอะไรกินกัน...หนุ่มๆ” กลุ่มสาวประเภทสองทักทาย พวกเราก็ตอบไปตาม ที่จะนึกได้
.....แกงไก่บ้าง.....ต้มจืดบ้าง.......
ทางฝ่ายนั้นก็ กระเซ้าต่อ “ขอกินด้วยคนสิ"
วันหยุดวันหนึ่ง ที่ผมค่อนข้างเซอร์ไพรส์ เมื่อผมมานั่งซักผ้าที่ก๊อกน้ำ ปากทางเข้าบ้าน ผม ได้เอาวิทยุมาเปิดเพลงฟังแก้เหงา ไอ้ต้อมเดินผ่านบริเวณจุดที่ ผมนั่งซักผ้า กับเพื่อน เสียงเขาพูดแบบทีเล่นทีจริงขึ้นว่า
"พี่ขลุ่ย เดี๋ยวต้อมซักผ้าให้เอาไหม"
...วันนี้ไอ้ต้อมมาแปลก..... ผมคิดในใจ เลยพูดเล่นๆ ไปว่า
"เอาสิ อยากซักก็มาช่วย” อ้าว ..เฮ้ย ไอ้ต้อมมาจริงๆ ด้วยสิ ไอ้ต้อม ทำมือผายไป พร้อมพูดว่า
"พี่ไปนั่งรอในบ้าน เดี๋ยวต้อมจัดการทำให้ทุกอย่าง" ไอ้ต้อมพูด
ผม เดินเข้าไปในบ้านแบบงงๆ ต่อมาไอ้ต้อมก็จัดการตากเสื้อผ้า แล้วก็เดินเข้าไปในบ้านพี่รักษ์
จากวันนั้น ไอ้ลิต ก็เอาเรื่องนี้ไปพูดให้เพื่อนๆ ฟังว่า สงสัยไอ้ต้อม...มันชอบไอ้ขลุ่ย... ในกลุ่มเพื่อนผมบางคน คงมองว่าไอ้ต้อมนี่ ไม่ใช่ชายแท้แน่ๆ เวลาผ่านไป...ผมเริ่มระมัดระวังตัวมากขึ้น เวลาจะซักผ้าต้องคอยแอบซัก ไม่เหมือน เมื่อก่อนแล้ว ยิ่งระยะหลังไอ้ต้อม สายตามันออกแนวหวานมาที่ผมบ่อยๆ
"ไอ้ห่า... ระยะหลัง พวกกระเทย มันชอบมาป้วนเปี้ยวแถวๆ บ้านเรา กูนี่รำคาญชิบหาย" ไอ้ลิตพูด เขานิ่งไปครู่ แล้วพูดต่อ
"ไอ้ห่าขลุ่ย ไอ้ต้อม มันชอบมึงแน่ๆ ระวังนะโว้ย กระเทยมันรักใคร รักจริง มึงไปหลอกมันเมื่อไหร่ มึงตายแน่..." ไอ้ลิตพูด
ช่วงหลังไอ้ต้อม มักจะมาอาสา รับใช้ช่วยงานผมบ่อยๆ และกล้าที่จะเข้ามาในบ้าน ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเขาแค่เดินผ่านๆ
"พี่ขลุ่ย มีอะไรให้ต้อมช่วยทำมั้ย"
เมื่อผมได้ยินคำพูดที่หวังดีของเขาก็ตอบไป
"ไม่หรอก ไม่มี ทำเสร็จหมดแล้วล่ะ..."
"พี่อยากกินอะไร เดี๋ยวจะซื้อมาฝาก"
"ไม่ ...ไม่อยากกินอะไร อิ่มแล้ว"
"ไอ้ขลุ่ย อยากกินถั่วดำ" ไอ้เพื่อนบางคน ตอบแทนผม
ผมสวนกลับคำพูดของเพื่อน "ไอ้เวร ถั่วดำกูไม่ชอบ มึงชอบมึงก็ไปแดกเอง"
ระยะหลังผมเริ่มหงุดหงิด เพราะไอ้ต้อม ชักจะมายุ่มย่าม ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวมากขึ้น ดูเหมือนเขาจะเข้าใจความรู้สึกของผม ไอ้ต้อมหายไปจากหัวตะเข้หลายเดือน โดยไปทำงานที่พัทยา พี่รักษ์ บอกอย่างนั้น ดูเหมือนว่าชีวิตความเป็นส่วนตัว ของผมจะมีมากขึ้น จะไปไหนมาไหน ไม่ต้องหวาดระแวง ว่าจะมีกระเทยเข้ามาเกาะแกะ ขอบอกว่า จิตใจของผมไม่เคยมีรสนิยมกับพรรณไม้เดียวกันเลย หลายครั้งที่ไปนั่งร้านพี่แฝด เขาก็จะมาเอามือล้วงโน่น ล้วงนี่ มันจั๊กจี้ จนต้องตะเพิดให้ออกไป ...ทำไมวะ ชีวิตกู... จะต้องมีพวกนังมารร้าย เหล่านี้มาป้วนเปี้ยนข้างตัว ให้รำคาญเสียจริง หลังสอบเสร็จ ธรรมเนียมปฏิบัติของเรา คือ กินเหล้าคลายเครียด ผมได้ขอนุญาตป้าอ้อย เราเปิดวงตั้งแต่หกโมงจนสี่ทุ่ม เหล้าหมด ผมจึง เดินออกไปซื้อกับไอ้จี๊ด
"...แม่เจ้าโวย… สาวงามมาจากไหนหว่า เดินสวนทางมาพอดี" ผมรำพัน
แสงไฟสลัวๆ จากแสงนีออน หกเจ็ดสาว แต่งชุดราตรี คุยกันอย่างอารมณ์ดี ในเจ็ดคนนั้น
อุ..... แม่เจ้า!!... ช่างสวยถูกใจผมอย่างมาก ความเมาไม่เข้าใครออกใคร ปากหมาได้โดยไม่เกรงใจใคร
"น้องชุดลายดอกสวยจัง... คืนนี้ว่างไหม" เธอยิ้มหวานให้ไม่ปริปาก
“เฮ้ย! ได้ผล เขาไม่ด่าว่ะ" ผมพูดกับไอ้จื๊ด พวกเธอเดินลับสายตาไปในความมืด
พี่กลุ่มนั้น ก็ได้เดินออกมาจากบ้านพี่รักษ์ แต่งตัวสวยเช้งวับทุกนาง หญิงคนหนึ่งเพรียว สูงระหงส์ ดังนางงาม ยืนยิ้มหน้าบ้าน เอ่ยปากทักมาว่า
"พี่ขลุ่ย วันนี้ต้อมว่าง เมื่อคืนพี่ขลุ่ย ชวนต้อมให้มานอนด้วยจะว่าไ”
...ฉิบหายแล้ว!!! ไอ้ต้อมนี่หว่า... เมื่อคืนไปชวนมันเพราะปากหมาแท้ๆ
...เพื่อนๆ โว๊ย !!! ช่วยกูด้วย .. ไม่เอาแล้ว เผ่นก่อน โว้ย.........
จากวันนั้น ผมหลบหายไปจากบ้านที่ผมเช่า แล้วไม่ย้อนกลับมาอีกเลย ...ปากพาซวยแท้ๆ
ณ วันนี้... ไอ้ต้อมเป็น อย่างไร ผมคาดเดาไม่ถูก จะเป็นชายหรือหญิง ก็ไม่อาจคาดเดาได้ เพราะหลายคนที่ผมเคยเห็น ตอนหลัง กลับมาเป็นชาย มีภริยาจนมีลูก ก็หลายคน ..ผมไม่ได้เจอกับไอ้ต้อมมา ตั้งแต่วันที่ผม หนีกระเจิดกระเจิงออกจากบ้านเช่า ว่าไปแล้ว ..วันนี้อยากเจอเขานะ พูดจริงๆ ครับ...
ขลุ่ย บ้านข่อย (๒๕ กค ๖๕)
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ ขลุ่ย บ้านข่อย ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ขลุ่ย บ้านข่อย
ความคิดเห็น